ความคิดเห็นต่อการรับฟังความเห็นสาธารณะของ กสทช. เกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่และทฤษฎี TIMO

การเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของ กสทช. เกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่หลายย่านและทฤษฎี TIMO

บริษัท เอ็มวีเอ็นโอ เซอร์วิสเซส จำกัด ได้ส่งความคิดเห็นต่อการเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่หลายย่าน รวมถึงข้อเสนอในการเพิ่มแนวคิด ‘Thailand Independent Market Operator’ (TIMO) ซึ่งยังขาดหลักฐานรองรับ

ความคิดเห็นมีดังต่อไปนี้

เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อข้อเสนอการประมูลคลื่นความถี่หลายย่านความถี่พร้อมกันของ กสทช. ประเด็นสำคัญหลายประการยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงเงื่อนไขการควบรวมกิจการ (การจัดสรรความจุสำหรับ MVNA/MVNO, ราคา, และคุณภาพการให้บริการ), การส่งเสริม MVNA/MVNO, กรอบราคาขายส่ง, และการขาดการแข่งขันในตลาดโดยรวม การประมูลพร้อมกันมีความเสี่ยงที่จะทำให้โครงสร้างตลาดที่ซบเซาในปัจจุบันคงอยู่ต่อไปอีก 15 ปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและการแข่งขันในอนาคต ก่อนดำเนินการประมูลใดๆ กสทช. ต้องแก้ไขประเด็นที่ยังค้างคาเหล่านี้และบังคับใช้กฎระเบียบของตนเองเสียก่อน ดังนั้น เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้วิธีการประมูลแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยเริ่มจากจำกัดการประมูลเพียงหนึ่งหรือสองย่านความถี่ก่อน และดำเนินการประมูลครั้งต่อๆ ไปหลังจากที่ กสทช. ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดเบื้องต้นเหล่านี้แล้วเท่านั้น

เกี่ยวกับข้อกำหนดคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาต

เนื่องจากตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา การบังคับใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรความสามารถในการให้บริการ (Capacity) แก่ MVNA/MVNO ตามกฎระเบียบปัจจุบันยังไม่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม บริษัท เอ็มวีเอ็นโอ เซอร์วิสเซส จำกัด ขอเสนอให้กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตในการประมูล โดย ผู้สมัครจะต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เป็นรูปธรรมในการทำข้อตกลงการให้บริการโครงข่ายแบบขายส่ง (Wholesale Agreement)

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สมัครจะต้อง มีหลักฐานแสดงถึงข้อตกลงขายส่งที่มีอยู่กับ MVNA/MVNO หรือ อย่างน้อยต้องมีเอกสาร “Head of Terms” ที่ลงนามแล้ว ซึ่งระบุเงื่อนไขหลักของข้อตกลงดังกล่าว เพื่อให้มีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประมูล

ข้อกำหนดนี้ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนการเข้าถึงโครงข่ายของ MVNA/MVNO เท่านั้น แต่ยังสนับสนุนเป้าหมายในการใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่ (ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาติ) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของตลาด ส่งเสริมการแข่งขัน และรับประกันว่าการจัดสรรคลื่นความถี่จะเกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน รวมถึงประเทศชาติ ภาคธุรกิจ และผู้ใช้บริการปลายทาง

ข้อกำหนดนี้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่มีอยู่ รวมถึงเงื่อนไขในการควบรวมกิจการและแนวปฏิบัติในตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมและการให้บริการที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็นเกี่ยวกับทฤษฎี TIMO – Thailand Independent Market Operator

บริษัท เอ็มวีเอ็นโอ เซอร์วิสเซส จำกัด จำกัด ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวคิด “ผู้ให้บริการตลาดอิสระของประเทศไทย (TIMO)” ดังนี้

  1. TIMO ไม่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการประมูลคลื่นความถี่:
  • TIMO เป็นเพียงแนวคิดเชิงทฤษฎีที่ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม จึงไม่เหมาะสมที่จะรวม TIMO ไว้ในกรอบการกำกับดูแลใดๆ รวมถึงการประมูลคลื่นความถี่ครั้งนี้ TIMO ยังไม่ได้จัดตั้งขึ้น ไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินการ และบทบาทและขอบเขตที่แท้จริงของ TIMO ยังไม่ชัดเจน
  • การนำ TIMO เข้าสู่กระบวนการประมูลจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าและความไม่แน่นอนในตลาด ซึ่งจะขัดขวางการลงทุนและการขยายบริการโดยผู้ให้บริการจริง
  1. แนวคิด TIMO ไม่มีหลักฐานความสำเร็จในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม:
  • แม้ว่าแนวคิดบางส่วนของ TIMO อาจเหมาะสมกับอุตสาหกรรมพลังงาน แต่ไม่มีกรณีศึกษาหรือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนการประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพในตลาดโทรคมนาคม
  • โครงสร้างของตลาดพลังงานและตลาดโทรคมนาคมมีความแตกต่างกันอย่างมาก ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งทำให้การกำหนดราคาและการกระจายทรัพยากรเป็นระบบและคาดการณ์ได้ ในทางกลับกัน คลื่นความถี่โทรคมนาคมมีความแตกต่างกันและแตกต่างกันอย่างมากในด้านความถี่ ความครอบคลุม และลักษณะการแพร่กระจาย
  • การกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาต (MNOs) จัดสรรความจุให้กับ TIMO เพื่อให้ MVNA/MVNO ใช้งาน จะทำให้เกิดความล่าช้ามากขึ้น และจะไม่สามารถแก้ปัญหาการแข่งขันในตลาดได้อย่างแท้จริง
  1. ปัญหาการบังคับใช้กฎระเบียบที่มีอยู่ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไข:
  • เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่ MNOs ถูกกำหนดให้จัดสรรความจุให้กับ MVNA/MVNOs แต่สิ่งนี้ยังไม่ได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการขาดการบังคับใช้กฎระเบียบของตนเองโดย กสทช.
  • แทนที่จะเป็น TIMO ทางออกคือการบังคับใช้กฎระเบียบที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะสร้างทฤษฎีใหม่ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์และไม่รู้จัก เช่น TIMOs
  1. ข้อกังวลเกี่ยวกับต้นทุนและประสิทธิภาพของ TIMO:
  • การจัดตั้ง TIMOs จะต้องมีโครงสร้างการจัดการและการดำเนินงานเพิ่มเติม ซึ่งจะนำไปสู่ต้นทุนและภาระที่สูงขึ้นสำหรับอุตสาหกรรม
  • การนำ TIMO ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ไม่ได้รับการพิสูจน์มาใช้ จะเพิ่มความซับซ้อนของการจัดสรรคลื่นความถี่และการให้บริการ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการพัฒนาตลาด MVNO ในประเทศไทย
  • ที่ปรึกษาที่แนะนำทฤษฎี TIMO ขาดข้อมูลสำคัญโดยละเอียดเกี่ยวกับตลาดโทรคมนาคมไทยและ MVNA/MVNO โดยทั่วไป
  1. ข้อเสนอแนะต่อ กสทช.:
  • ควรมีการกำกับดูแล MNOs ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการจัดหาความจุให้กับ MVNA/MVNOs ภายใต้กฎระเบียบที่มีอยู่ เพื่อให้มั่นใจถึงการแข่งขันที่เป็นธรรมและอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาด
  • ควรศึกษาตัวอย่างจาก 100 ประเทศที่พัฒนา MVNA/MVNOs ได้สำเร็จ และนำแนวทางที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในบริบทของประเทศไทย

ประเด็นเพิ่มเติมอื่น ๆ

พิจารณาให้ โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) คงสิทธิ์ถือครองบางส่วนของคลื่นความถี่ 2300MHz เพื่อดำเนินธุรกิจขายส่ง (Wholesale) เช่นเดียวกับ “National Wholesale Network” (Red Compartida) ในประเทศเม็กซิโก เนื่องจาก NT เป็นผู้ให้บริการอิสระเพียงรายเดียวในตลาด

การอนุญาตให้ NT ถือครองและให้บริการบางส่วนของคลื่น 2300MHz ในรูปแบบขายส่ง จะช่วยสร้างสมดุลให้กับโครงสร้างการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมไทย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการรายย่อย รวมถึง MVNA/MVNO สามารถเข้าถึงโครงข่ายในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการแข่งขัน ลดการกระจุกตัวของอุตสาหกรรม และเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค

นอกจากนี้ โมเดล National Telecom Wholesale Network ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนช่วยส่งเสริมการแข่งขันและขยายการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมในหลายประเทศ การนำแนวทางนี้มาประยุกต์ใช้กับ NT อาจเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรคลื่นความถี่ของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมอย่างยั่งยืน และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการใช้คลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่สำคัญ NT เป็นความหวังสำคัญในการลดการผูกขาดของตลาดโทรคมนาคมแบบคู่ขนาน (Duopoly) ซึ่งจำกัดการแข่งขันที่แท้จริง การเสริมความแข็งแกร่งให้ NT ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายอิสระ จะช่วยเปิดตลาดให้ผู้เล่นรายใหม่ ลดการกระจุกตัวของอำนาจในการควบคุมโครงข่าย และสร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เป็นธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพบริการ ราคา และนวัตกรรมที่ดีขึ้นสำหรับทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

นอกเหนือจากการส่งเสริมการแข่งขันแล้ว การดำเนินการดังกล่าวยังช่วยแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงของโครงข่าย (Security) ซึ่งเกิดจาก Single Point of Failure ในกรณีที่หนึ่งในสองเครือข่ายหลักของ MNO ล่มหรือขัดข้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทั้งประชาชนและภาคธุรกิจ การเสริมความแข็งแกร่งให้ NT ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายอิสระจึงเป็นกลไกสำคัญในการกระจายความเสี่ยง และสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่มีเสถียรภาพและยั่งยืนมากขึ้น

Latest Posts
Author: MVNO.SERVICES
A one-stop solution of CONNECTIVITY, TECHNOLOGY, and EXPERTISE, enabling public and private enterprises to launch and operate their own mobile services.

LOOKING TO LAUNCH AS A MOBILE VIRTUAL NETWORK OPERATOR (MVNO)?