NT ยกเลิก MVNO, กสทช ดัน MVNA เป็นทางออก

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เปิดเผยว่า จากที่คลื่นความถึ่ 850 เมกะเฮิรตซ์ และ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ของเอ็นทีจะหมออายุใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่จากสำนักงาน กสทช. ในเดือน ส.ค. 68 นี้ ทำให้เอ็นที จะยกเลิกการให้เช่าใช้แบนด์วิดธ์กับผู้ให้บริการมือถือ โดยไม่มีโครงข่ายของตนเอง (เอ็มวีเอ็นโอ) และจะแจ้งต่อ กสทช. เพื่อรับทราบ เนื่องจากการไม่มีคลื่นความถี่ดังกล่าวแล้วทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ต้องนำคลื่นความถี่ให้สำนักงาน กสทช. นำไปประมูลจัดสรรต่อ นอกจากนี้ปัจจุบันผู้ให้บริการเอ็มวีเอ็นโอหลายรายขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงไม่สามารถชำระค่าบริการและเช่าใช้คลื่นให้เอ็นทีได้ ประกอบกับต้นทุนค่าโรมมิ่งที่สูง กระทบความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ใบอนุญาตคลื่นความถี่กำลังจะหมดอายุ จึงตัดสินใจถอนตัวจากตลาดเอ็มวีเอ็นโอ และไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ของ กสทช. หากไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาสนับสนุน

พ.อ.สรรพชัยย์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเอ็นที มีเอ็มวีเอ็นโออยู่ 5 ราย มีลูกค้าหลักแสนราย ทาง กสทช. มีหน้าที่ทำให้เอ็มวีเอ็นโออยู่รอด และหากต้องการให้ เอ็นที ช่วยผลักดันในอนาคต กสทช.จำเป็นต้องออกกฎระเบียบ เพื่อควบคุมอัตราค่าโรมมิ่งให้เป็นธรรม คล้ายกับอัตราค่าบริการเชื่อมต่อโครงข่าย (ไอซี)

ด้าน นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจ เอ็มวีเอ็นโอ ภายใต้โครงสร้างของ ทีโอที และ กสท.หรือ แคท เดิม ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ เนื่องจากต้นทุนค่าโรมมิ่งที่สูง ขณะที่เอ็นที ไม่มีคลื่นความถี่รองรับหากไม่ต่อใบอนุญาต ทำให้ผู้ให้บริการ เอ็มวีเอ็นโอ ต้องเร่งหาทางออก โดยพึ่งพาผู้บริการเครือข่ายอื่น ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ให้ที่ปรึกษาต่างประเทศศึกษาตลาดเอ็มวีเอ็นโอ ได้มีข้อเสนอ ผู้ให้บริการมือถือและบริการข้อมูลแบบขายส่งแก่ธุรกิจต่างๆ หรือ เอ็มวีเอ็นเอ ซึ่งอาจเป็นโมเดลที่ช่วยให้เอ็มวีเอ็นโอสามารถดำเนินธุรกิจได้ โดยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะตลาดเฉพาะกลุ่ม อย่างเช่น เน้นเจาะกลุ่มแอลจีบีทีคิว ที่มีกำลังซื้อสูง

ล่าสุด กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ได้เร่งหาทางออกเพื่อช่วยเหลือผู้ให้บริการ MVNO ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยหนึ่งในแนวทางที่กำลังพิจารณาคือ MVNA (Mobile Virtual Network Aggregator)

“ถือเป็นความท้าทายของ กสทช. ในการกำกับดูแลก็จริง แต่เมื่อตลาดเป็นเชิงพาณิชย์ การแทรกแซงอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 ก.พ.นี้ กสทช. เตรียมนำโมเดล เอ็มวีเอ็นเอ ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล พร้อมถกแนวทางการรักษาสมดุลระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายหลักและ เอ็มวีเอ็นโอ รายย่อย”

Loxley ประกาศยุติบริการ MVNO i-Kool เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนการเข้าถึงโครงข่ายสำหรับ MVNO ในประเทศไทย

ในประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท Loxley ระบุว่า:

ประกาศ เรื่องการสิ้นสุดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ i-Kool

สืบเนื่องจากสัมปทานใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ที่ย่าน 850 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จะหมดอายุลงในเดือนสิงหาคม 2568 ส่งผลกระทบต่อการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ i-Kool โดยตรง นอกจากนี้ แผนดำเนินการด้านเทคนิคเพื่อโอนย้ายลูกค้าไปยังโครงข่ายใหม่ของผู้ให้บริการโครงข่ายหลักยังมีความไม่ชัดเจน ประกอบกับต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น

ส่งผลให้ i-Kool มีความจำเป็นต้องยุติให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีแผนที่จะสิ้นสุดบริการในวันที่ 30 มิถุนายน 2568